หน้าหลัก
พิธีมอบตราตั้งเจ้าคณะอำเภอ และรองเจ้าคณะอำเภอ
พระเทพวิสุทธิโมลี รักษาการแทนเจ้าคณะภาค ๑๐ ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานพิธีมอบตราตั้งเจ้าคณะอำเภอ และรองเจ้าคณะอำเภอ
ในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ ๓๑ สิงหาคม และ ๑ กันยายน ๒๕๖๓ ดังนี้
๑. พระครูเกษมธรรมานุวัตร เป็น เจ้าคณะอำเภอตระการพืชผล
๒. พระครูวีรวรานุกูล เป็น เจ้าคณะอำเภอนาตาล
๓. พระครูสุนทรสารวัฒน์ เป็น เจ้าคณะอำเภอนาจะหลวย
๔. พระครูปริยัตยานุการ เป็น รองเจ้าคณะอำเภอเขมราฐ
๕. พระครูโกศลวิหารคุณ เป็น รองเจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี
๖. พระครูโสภณนพรัตน์ เป็น รองเจ้าคณะอำเภอศรีเมืองใหม่
๗. พระมหาสาคร ราชเสโน ป.ธ.๕ เป็น รองเจ้าคณะอำเภอตาลสุม
๘. พระสมุห์คะนอง ปภสฺสโร เป็น รองเจ้าคณะอำเภอโขงเจียม
ขอบคุณภาพจาก พระอุดมปัญญาภรณ์
แต่งตั้งพระสังฆาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ ภาค ๑๐
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๓/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๒ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ได้มีลิขิตที่ จญ.อ. ๑๐๐/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๒ แจ้งตามรายงานของ พระเทพวิสุทธิโมลี ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค ๑๐ ว่า มีพระสังฆาธิการระดับรองเจ้าคณะจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๐ ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด และได้รับพระบรมราชานุญาตให้ลาสิกขา เป็นเหตุให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดว่างลง จึงเสนอแต่งตั้งพระสังฆาธิการให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๐ จำนวน ๓ รูป คือ
๑. พระครูวิสิฐพัฒนาภรณ์ (ทองหล่อ สํวโร) อายุ ๗๕ พรรษา ๕๕ ป.ธ. ๔ น.ธ. เอก พธ.บ. ศศ.ม. ปร.ด. Ph.D. เจ้าอาวาสวัดกลาง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี (ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๑) ให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี
๒. พระครูสิริปริยัติการ (หงส์ ปคุโณ) อายุ ๗๑ พรรษา ๔๙ ป.ธ. ๔ น.ธ. เอก พธ.บ. เจ้าอาวาสวัดเพียนาม ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ และเจ้าคณะอำเภอ-เมืองศรีสะเกษ (ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๗) ให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ
๓. พระครูวิชิตพัฒนคุณ (วิชัย วิชโย) อายุ ๗๕ พรรษา ๕๔ น.ธ. เอก เจ้าอาวาสวัดกกต้อง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม และเจ้าคณะอำเภอเมืองนครพนม (ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๗) ให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม
การเสนอแต่งตั้งพระสังฆาธิการ ให้ดำรงตำแหน่ง รองเจ้าคณะจังหวัด ในเขตปกครอง คณะสงฆ์ภาค ๑๐ ดังกล่าวได้ปฏิบัติตามความในข้อ ๖ ข้อ ๑๔ (๑) (๓) และข้อ ๑๖ แห่งกฎมหาเถร-สมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติอนุมัติ และให้ดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม
แต่งตั้งพระสังฆาธิการให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอ และที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบล ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๙ ภาค ๑๐ และภาค ๑๒
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๓๐/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ได้มีลิขิต ที่ จญ.อ. ๑๓๙/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ แจ้งตามรายงานของ พระเทพเมธี ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค ๙ พระเทพวิสุทธิโมลี ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค ๑๐ และพระเทพรัตนมุนี ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค ๑๒ ว่า เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าคณะจังหวัดยโสธร และเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งได้รับรายงานจาก เจ้าคณะอำเภอผู้บังคับบัญชาใกล้ชิด ได้เสนอแต่งตั้งพระสังฆาธิการที่ได้ปฏิบัติหน้าที่มาโดยเรียบร้อย และไม่ทุพพลภาพหรือพิการ ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอและที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบล ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๙ ภาค ๑๐ และภาค ๑๒ จำนวน ๑๐ รูป คือ
๑. พระสุนทรธรรมประพุทธ์ (เกษร ฐานิสฺสโร) อายุ ๘๐ พรรษา ๖๐ ประโยค ๑ - ๒ น.ธ. เอก รป.ม. วัดเหนือ ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าอาวาสวัดเหนือ และรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์
๒. พระรัตโนภาสวิมล (เลียม ทนฺตจิตฺโต) อายุ ๘๐ พรรษา ๕๙ น.ธ. เอก วัดแสงเกษม ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดแสงเกษม และรองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี
๓. พระครูโกศลปัญญาธร (บุญมา ปญฺญาธโร) อายุ ๘๐ พรรษา ๕๓ น.ธ. เอก วัดบ้านโคกล่าม ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าอาวาสวัดบ้านโคกล่าม และรองเจ้าคณะอำเภอกมลาไสย ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอกมลาไสย
๔. พระครูวชิรธรรมโสภณ (วิเชียร วิชโย) อายุ ๘๑ พรรษา ๕๘ ป.ธ. ๓ น.ธ. เอก วัดนาหว้า ตำบลหนองสิม อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดนาหว้า และรองเจ้าคณะอำเภอเขมราฐ ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเขมราฐ
๕. พระครูธรรมสารวิลาส (มอญ ธมฺมิโก) อายุ ๘๐ พรรษา ๖๐ น.ธ. เอก วัดศรีชมชื่น ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดศรีชมชื่น และรองเจ้าคณะอำเภอท่าอุเทน ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอท่าอุเทน
๖. พระครูอินทสารสถิต (เส็ง ฐิตสาโร) อายุ ๘๐ พรรษา ๖๐ น.ธ. เอก วัดอินทาวาส ตำบลโคกสำราญ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เจ้าอาวาสวัดอินทาวาส และรองเจ้าคณะอำเภอเลิงนกทา ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเลิงนกทา
๗. พระครูวิจิตรธรรมสโมธาน (เฉลา ภูริจิตฺโต) อายุ ๘๐ พรรษา ๖๐ น.ธ. เอก พธ.ม. (กิตติมศักดิ์) วัดเกตุสโมสร ตำบลบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าอาวาสวัดเกตุสโมสร และเจ้าคณะอำเภอบางน้ำเปรี้ยว ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางน้ำเปรี้ยว
๘. พระครูสุวรรณธรรโมภาส (ผจญ ฐิตธมฺโม) อายุ ๘๐ พรรษา ๖๐ ป.ธ. ๔ น.ธ. เอก วัดทองนพคุณ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ และเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๒ ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๒
๙. พระครูปัญญาสิริทัศน์ (ณรงค์ สิรปญฺโญ) อายุ ๘๐ พรรษา ๓๔ น.ธ. เอก วัดบ้านจิก ตำบลแพงใหญ่ อำเภอเหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดบ้านจิก และเจ้าคณะตำบลแพงใหญ่ ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลแพงใหญ่
๑๐. พระครูสุวรรณเตชธรรม (คำพันธ์ เตชธมฺโม) อายุ ๘๐ พรรษา ๔๑ น.ธ. ตรี วัดนาจาน ตำบลระเว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดนาจาน และเจ้าคณะตำบลระเว ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลระเว
การเสนอแต่งตั้งพระสังฆาธิการให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอ และที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบล ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๙ ภาค ๑๐ และภาค ๑๒ ดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามความในข้อ ๓ แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๘ (พ.ศ. ๒๕๔๖) แก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ว่าด้วย การแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ซึ่งได้บัญญัติให้พระสังฆาธิการผู้ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และรองเจ้าคณะตำบล ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่มาโดยเรียบร้อย จนมีอายุครบ ๘๐ ปี บริบูรณ์หรือผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดเห็นสมควรยกย่องเชิดชู ให้ยกย่องเชิดชูให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะในชั้นนั้น ๆ
ดังนั้น เมื่อผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดเห็นสมควรยกย่องเชิดชูเจ้าคณะและรองเจ้าคณะให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะในชั้นนั้น ๆ ให้เสนอตามลำดับ จนถึงมหาเถรสมาคมพิจารณา เพื่อมีพระบัญชาแต่งตั้งตามมติมหาเถรสมาคม โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าคณะพระสังฆาธิการเจ้าสังกัดตามลำดับจนถึง เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกแล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา
ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
๑. พระสุนทรธรรมประพุทธ์ วัดเหนือ ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์
๒. พระรัตโนภาสวิมล วัดแสงเกษม ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี
๓. พระครูโกศลปัญญาธร วัดบ้านโคกล่าม ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ รองเจ้าคณะอำเภอกมลาไสย ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอกมลาไสย
๔. พระครูวชิรธรรมโสภณ วัดนาหว้า ตำบลหนองสิม อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี รองเจ้าคณะอำเภอเขมราฐ ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเขมราฐ
๕. พระครูธรรมสารวิลาส วัดศรีชมชื่น ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม รองเจ้าคณะอำเภอท่าอุเทน ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอท่าอุเทน
๖. พระครูอินทสารสถิต วัดอินทาวาส ตำบลโคกสำราญ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร รองเจ้าคณะอำเภอเลิงนกทา ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเลิงนกทา
๗. พระครูวิจิตรธรรมสโมธาน วัดเกตุสโมสร ตำบลบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าคณะอำเภอบางน้ำเปรี้ยว ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางน้ำเปรี้ยว
๘. พระครูสุวรรณธรรโมภาส วัดทองนพคุณ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๒ ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต ๒
๙. พระครูปัญญาสิริทัศน์ วัดบ้านจิก ตำบลแพงใหญ่ อำเภอเหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าคณะตำบลแพงใหญ่ ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลแพงใหญ่
๑๐. พระครูสุวรรณเตชธรรม วัดนาจาน ตำบลระเว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าคณะตำบลระเว ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลระเว
และให้ดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม
แนวทางปฏิบัติการย้ายเข้า ย้ายออก จากทะเบียนบ้านวัด
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๑ ที่ประชุม มีมติเห็นชอบเรื่อง การขับเคลื่อนการจัดทำสมาร์ทการ์ด และการจัดเก็บฐานข้อมูลพระภิกษุ สามเณร ทั่วประเทศ และมีข้อหารือในกรณีพระภิกษุ สามเณร ที่เข้ามาอยู่อาศัยในวัดใหม่ (สำนักเรียน) เพื่อศึกษา พระปริยัติธรรมบางวัด (สำนักเรียน) มีกฎระเบียบฯ ในการเข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรมว่า หากสอบไม่ได้ภายใน ๓ ปี จะต้องพ้นจากสังกัดวัดนั้น หรือให้ย้ายออกจากวัด โดยเจ้าอาวาสสามารถแจ้งคัดชื่อพระภิกษุ สามเณร รูปนั้น ออกจากทะเบียนบ้านวัดได้หรือไม่ และมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร นั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้มีหนังสือ ที่ พศ ๐๐๐๖/๐๔๙๒๑ ลงวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ หารือกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขอทราบแนวทางปฏิบัติการย้ายเข้า ย้ายออก จากทะเบียนบ้านวัด ดังนี้ ๑. การย้ายเข้า ย้ายออก จากทะเบียนบ้านวัด และอำนาจหน้าที่ของเจ้าบ้านและผู้อาศัย ๒. ในกรณีพระภิกษุ สามเณร ลาสิกขา เจ้าอาวาสในฐานะเจ้าของบ้านจะอายัด บัตรประจำตัวประชาชนที่มีรูปบุคคลดังกล่าวห่มจีวรพระได้หรือไม่ และจะต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางให้กับเจ้าอาวาสในการปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และเป็นไปตามแนวปฏิบัติของกรมการปกครอง ในเรื่องดังกล่าว กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือ ที่ มท ๐๓๐๓.๔/๑๕๕๖๙ ลงวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ชี้แจง ดังนี้ ๑. การแจ้งย้ายรายการบุคคลออกจากทะเบียนบ้าน หรือแจ้งย้ายรายการบุคคลเข้าในทะเบียนใด จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยมาตรา ๑๐ (๑) กำหนดให้เจ้าบ้านแจ้งการย้ายออกต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ผู้อยู่ในบ้านย้ายออกจากบ้าน และมาตรา ๓๐ (๒) กำหนดให้เจ้าบ้านแจ้งการย้ายเข้าต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มี ผู้ย้ายที่อยู่เข้าอยู่ในบ้าน ซึ่งในการปฏิบัติเกี่ยวกับการแจ้งย้ายออกหรือย้ายเข้าทะเบียนบ้าน จะต้องมี การย้ายทางกายภาพก่อนจึงจะแจ้งย้ายทะเบียนบุคคลได้ ดังนั้น การที่เจ้าอาวาสจะแจ้งย้ายรายการบุคคลของพระภิกษุ สามเณร ที่สอบพระปริยัติธรรมไม่ได้ภายใน ๓ ปี ออกจากทะเบียนบ้านของวัด (สำนักเรียน) ได้นั้น จะต้องให้พระภิกษุ หรือสามเณร รูปนั้นย้ายออกไปจากวัดนั้นเสียก่อนจึงจะแจ้งย้ายทะเบียนบ้านได้ ๒. บัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารราชการที่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจตามกฎหมายออกให้กับผู้ยื่นคำขอมีบัตรที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด จึงถือได้ว่าบัตรประจำตัวประชาชนเป็นทรัพย์ของผู้ถือบัตรหรือผู้มีชื่อเป็นเจ้าของบัตร โดยพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๕ ทวิ กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดเอาไปเสียหรืออายัดบัตรของผู้อื่น และกำหนดให้มีโทษจำคุกหรือปรับ ดังนั้น เจ้าอาวาสจึงไม่มีอำนาจอายัดบัตรประจำตัวประชาชนที่มีรูปถ่ายเจ้าของบัตรห่มจีวรพระ แม้ว่าพระภิกษุ สามเณร รูปนั้นจะสอบพระปริยัติธรรมไม่ได้ หรือลาสิกขาแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สถานะของผู้ถือบัตรตรงกับข้อเท็จจริง จึงควรแนะนำให้ขอมีบัตรใหม่
ห้ามใช้วัดเป็นสถานที่ชุมนุมหรือสัมมนาหรือจัดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบและความแตกแยกเกิดขึ้นในสังคม
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ด้วยปัจจุบัน ได้รับทราบพฤติการณ์ว่ามีการใช้อาคารสถานที่และพื้นที่ของวัดเป็นสถานที่จัดชุมนุม ประชุม สัมมนา เสวนา หรือกิจกรรมที่มีลักษณะหรือเนื้อหา ที่อาจเป็นการละเมิดกฎหมาย หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือใช้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นการขัดคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๓๘ เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้อง กับการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๘ อันเป็นการใช้สถานที่วัดผิดไปจากวัตถุประสงค์ เพื่อประโยชน์เฉพาะการทำสังฆกรรม กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา การคณะสงฆ์ การสาธารณสงเคราะห์ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการเสริมสร้างความสามัคคีของประชาชน จึงมีมติให้ประกาศ ดังต่อไปนี้ ๑. ให้พระสังฆาธิการปฏิบัติและกวดขันมิให้พระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง ตามคำสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๓๘ ๒. ห้ามเจ้าอาวาสใช้ ยินยอม หรืออนุญาตให้ใช้วัดเป็นสถานที่จัดชุมนุม ประชุม สัมมนา เสวนา หรือกิจกรรมที่มีลักษณะหรือเนื้อหาที่อาจเป็นการละเมิดกฎหมาย หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือให้ใช้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ๓. หากมีผู้มาใช้วัดเป็นสถานที่จัดกิจกรรมดังกล่าวในข้อ ๒ โดยพลการ ให้เจ้าอาวาสเข้าป้องกัน ห้ามปราบ หรือระงับมิให้มีกิจกรรมนั้นในวัดต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็น ให้ขออารักขาจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่//// ประกาศมหาเถรสมาคม ///
ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. ....
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๐/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามที่ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือ ที่ นร ๐๕๐๓/๑๕๒๔๘ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เรียน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) แจ้งว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. .... ของคณะรัฐมนตรีด้วยแล้ว โดยกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้มีความเห็นและข้อสังเกตุเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวหลายประการ ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป นั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยกองพุทธศาสนศึกษา ได้ดำเนินการประชุมร่วมกับคณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้ข้อยุติ และให้มีหนังสือนมัสการกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นคณะกรรมการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. .... ประกอบด้วย พระพรหมมุนี ประธานกรรมการ พระพระพรหมโมลี รองประธานกรรมการ พระพรหมบัณฑิต กรรมการ และมีหนังสือแจ้งกระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยได้โปรดพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว รายละเอียดตามร่างพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. ... ที่แนบถวายในที่ประชุม....ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. ....
โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข : พัฒนาวัดตามแนวทาง ๕ ส.
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๐/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ เลขาธิการ มหาเถรสมาคมเสนอว่า พระพรหมมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม ได้มีลิขิต ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๑ แจ้งว่า อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้มีหนังสือ ที่ มท ๐๘๑๖.๓/๑๐๗๖๓ ลงวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๑ ว่า ตามบันทึกข้อตกลง (MOU) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นร่วมกับมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือดำเนินโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข : พัฒนาวัดตามแนวทาง ๕ส ที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม เมื่อวันพุธ ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมใช้แนวทาง ๕ส เพื่อจัดการสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ รวมถึงกิจกรรม เชิงพุทธโดยจะก่อให้เกิดความเชื่อมโยงและสัมพันธภาพที่ดีให้เกิดขึ้นระหว่างวัดกับชุมชนทำให้พระ มีสุขภาพแข็งแรง วัดมีความมั่นคง ชุมชนมีความเข้มแข็งสืบไป และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลง (MOU) โดยการแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสมัครเข้าร่วมโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข : พัฒนาวัดตามแนวทาง ๕ส ที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั้น ในการนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ดำเนินการจัดทำคู่มือการดำเนินงานโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข : พัฒนาวัดตามแนวทาง ๕ส ที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม และได้จัดส่งคู่มือฯ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการตามโครงการฯ แล้ว พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ.. มติมหาเถรสมาคม
พิธียกฉัตร ๙ ชั้น ประดิษฐานบนยอดเจดีย์ชยันตรีศรีรัตนะ
วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๓๙ น.พระเดชพระคุณพระเทพวิสุทธิโมลี ป.ธ.๙ รองเจ้าคณะภาค ๑๐ เมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ หลวงพ่อพระครูเวตวันวรกิจ ประธานดำเนินงาน ท่านเมธาศิษฏ์ ฉัตรคุปต์ชนรดี
อนุมัติจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน ๑๖ แห่ง
ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๘/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า พระเทพวิสุทธิโมลี รองเจ้าคณะภาค ปฏิบัติหน้าที่แทน เจ้าคณะภาค ๑๐ ได้มีลิขิต ที่ สภ ๑๐๐๓/๖๐ ลงวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ แจ้งว่า ได้รับรายงานจาก พระรัตโนภาสวิมล รองเจ้าคณะจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่แทน เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ประธานคณะกรรมการสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ขออนุมัติจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน ๑๖ แห่ง คือ
สมโภชวัดอุดมพัฒนา และงานบุญประจำปี ๒๕๖๑
ค่ำคืนวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลา ๒๑.๐๙ น.พระเดชพระคุณพระรัตโนภาสวิมล รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เมตตาแสดงพระธรรมเทศนา เจ้าคณะพระสังฆาธิการเจริญพระพุทธมนต์
งานปฏิบัติธรรมประจำปี ของวัดดงหนองตอ
พระเทพวราจารย์ จจ.อุบลราชธานี แสดงพระธรรมเทศนา งานปฏิบัติธรรมประจำปี ของวัดดงหนองตอ นายอภิชัย พลเสน ปลัดอำเภอ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายอำเภอม่วงสามสิบ ประธานกล่าวเปิดการปฏิบัติธรรม
ร่วมงานบุญ ๑๐๐ ปี บ้านท่าศาลา ตำบลชีทวน(ชีซ่วน)
พระเทพปัญญามุนี เจ้าอาวาทวัดอาวุธวิกษิตาราม พระเทพกิตติโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ/ประธานสงฆ์วัดศรีนครินทร์ฯ สวิสเซอร์แลนด์ พระเทพวราจารย์ จจ.อุบลราชธานี ร่วมงานบุญ ๑๐๐ ปี บ้านท่าศาลา
ฉลองตราตั้ง พัดยศ รองเจ้าคณะอำเภอชั้นโท พระครูโสภณอัครทร
งานบุญ ฉลองตราตั้ง พัดยศ รองเจ้าคณะอำเภอชั้นโท พระครูโสภณอัครทร เจ้าอาวาสวัดนาห่อม/รองเจ้าคณะอำเภอทุ่งศรีอุดม พระเทพวราจารย์ จจ.อุบลราชธานี กล่าวสัมโมทนียกถา นายฮวงเซ็ง แช่ลี้
พิธีตัดหวายลูกนิมิตผูกพัทธสีมา วัดนาใต้
พิธีตัดหวายลูกนิมิตผูกพัทธสีมา วัดนาใต้ ตำบลกระโสบ อำเภอเมืองฯ จังหวัดอุบลราชธานี มีนายสิทธิขัย โควสุรัตน์ ประธานฝ่ายฆราวาส พระเทพวราจารย์ จจ.อุบลราชธานี ประธานสงฆ์
งานบำเพ็ญบุญครบ ๗ วัน พระครูโพธินิโครธาภิรักษ์
พระเทพวราจารย์ จจ.อุบลราชธานี แสดงพระธรรมเทศนา งานบำเพ็ญบุญครบ ๗ วัน สัตตมวาร พระครูโพธินิโครธาภิรักษ์ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอโพธิ์ไทร /
แสดงพระธรรมเทศนาสวดสมโภชวัดป่านาเยีย
วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลา ๒๒.๐๙ น.พระเดชพระคุณพระเทพวราจารย์ ป.ธ.๙ Ph.D. เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เมตตาแสดงพระธรรมเทศนา พระเดชพระคุณพระศรีรัตโนบล ป.ธ.๙ Ph.D. เจ้าคณะอำเภอวารินชำราบ
พิธีทำบุญเจริญอายุวัฒนมงคล พระรัตโนภาสวิมล
พิธีทำบุญเจริญอายุวัฒนมงคล วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๒.๐๐ น. พระเดชพระคุณพระเทพวิสุทธิโมลี รองเจ้าคณะภาค ๑๐ เมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เจ้าคณะพระสังฆาธิการคณสงฆ์ ภาค ๑๐ ทุกระดับชั้น
ยกช่อฟ้าพระอุโบสถวัดหอไตร บ้านโพนทอง
พระเทพกิตติโมลี เจ้าอาวาสวัดศรีนครินทร์ สวิสเซอร์แลนด์ พระเทพวราจารย์ จจ.อุบลราชธานี ในงานยกช่อฟ้าพระอุโบสถวัดหอไตร บ้านโพนทอง อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ๖๑/๐๒/๒๘
งานสมโภชวัดทุ่งช้าง ( พระเจ้าใหญ่ศรีอุดมรัตน์ )
วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลา ๒๑.๐๐ น. ร่วมงานสมโภชวัดทุ่งช้าง ( พระเจ้าใหญ่ศรีอุดมรัตน์ ) หลวงพ่อพระครูไพศาลธรรมประสุต เจ้าคณะอำเภอทุ่งศรีอุดม ประธานฝ่ายสงฆ์
สวดถอนสมานสังวาสสีมา ณ วัดหนองทัพ
วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เวลา ๑๕.๓๙ – ๑๖.๕๐ น. พระเดชพระคุณพระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เมตตาเป็นองค์สวดถอนสมานสังวาสสีมา สมมติ...สมานสังวาสสีมา
โครงการปฐมนิเทศและพัฒนาสมรรถนะพระสอนศีลธรรม
วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ น.พระเดชพระคุณพระเทพวราจารย์ ( ป.ธ.๙ Ph.D. ) เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เมตตาเป็นประธานเปิดโครงการปฐมนิเทศและพัฒนาสมรรถนะพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน
สวดถอนสมานสังวาสสีมา วัดป่าไร่
วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๙ – ๑๔.๓๐ น. พระเดชพระคุณพระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เมตตาเป็นองค์สวดถอนสมานสังวาสสีมา สมมติ...สมานสังวาสสีมา
ฉลองศรัทธาญาติโยม ( กลางโทง )
วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๑.๐๐ น.หลวงพ่อพระครูสุทธิพัฒนากิจ เจ้าคณะอำเภอน้ำขุ่น นำคณะสงฆ์อำเภอน้ำขุ่น และเพื่อนสหธรรมิกหลวงพ่อพระครูวชิรปัญญาวิสุทธิ์ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอน้ำขุ่น
งานสมโภชอุโบสถวัดโคกชำแระ ๖๑/๐๒/๒๐
วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เวลา ๐๑.๐๐ - ๐๔.๐๐ น. อาจารย์พระครูกิตติอุดมคุณประธานดำเนินงาน จัดงานสมโภชอุโบสถวัดโคกชำแระ และงานบุญประจำปี ( บุญ...มหาชาติ )
พิธีรดน้ำศพพระกันหา อนุตฺตโร ( โสมาพิมพ์ )
วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ น.กราบขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงพ่อพระครูเวตวันวรกิจ เจ้าคณะอำเภอเดชอุดม อาจารย์พระครูสิริญาณสังวร รองเจ้าคณะอำเภอเดชอุดม ( ฝ่ายการศึกษา ) ได้มอบผ้าไตร
พิธีปิดทอง ฝังลูกนิมิต วัดอาศรมสันติวันฯ
พระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เมตตาเป็นองค์สวดถอนสมานสังวาสสีมา สมมติสมานสังวาสสีมา สมมติติจีวราวิปปวาส ในช่วงบ่าย พระเดชพระคุณพระศรีรัตโนบล